Monday, September 04, 2006

Step 3 ... เตรียมเอกสารกันดีกว่าค่ะ

ข้อมูลจาก website ของสถานทูตเนเธอร์แลนด์ http://www.mfa.nl/ban-en/item_16717#58095
และเพิ่มเติมจากประสบการณ์ของเราเอง

เอกสารของผู้ยื่นคำร้อง (ตัวเราเองค่ะ)

1. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า ที่กรอกอย่างสมบูรณ์และลงลายมือชื่อผู้ขอวีซ่า

2. รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2รูป ขอเล่าเคสที่เราไปเจอมานะคะ มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งเธอใช้รูปนักศึกษา ทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าไม่สามารถใช้ได้ เพราะสถานะเค้าไม่ได้เป็นนักศึกษาแล้ว จบมาหลายเดือนแล้ว น้องเค้าก็เถียง (ขอใช้คำว่าเถียง) เพราะอาการเป็นแบบนั้นจริง ๆ ว่าเค้าเพิ่งไปถ่ายมาเพื่อสมัครงาน ก็เลยเอามาใช้ต่อ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมค่ะ เลยต้องไปถ่ายใหม่ หรือบางคนใช้รูปถ่ายแค่ 1 นิ้ว หรือเล็กกว่าขนาดที่กำหนด ก็ต้องไปถ่ายใหม่เช่นกันค่ะ เตรียมไปให้ถูกต้องตามที่เค้ากำหนดดีกว่าค่ะ อย่าคิดว่า..ไม่เป็นไร อ้อนเค้าหน่อย เค้าคงยอม มันเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของเค้าค่ะ เค้าไม่ยอมหรอก และเราต้องมาเสียเวลาอีกด้วย

3. หนังสือรับรองการทำงาน แนะนำให้ใช้ภาษาอังกฤษค่ะ โดยให้ระบุ ชื่อ-นามสกุล ตำแหน่ง แผนก/ฝ่าย วันที่เริ่มทำงาน รายได้ต่อเดือน

4. หนังสือยินยอมจากบริษัท/นายจ้างว่าอนุญาตให้ลางานได้ เราใช้หนังสือขออนุมัติเดินทางไปต่างประเทศ + ใบลาพักผ่อนค่ะ

5. หลักฐานทางการเงิน ที่เราใช้ยื่นประกอบได้แก่
5.1 สำเนาสมุดบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (เงินฝาก ณ วันที่ update มีประมาณ 30,000 บาทเองค่ะ) ฉะนั้นคนที่กังวลว่ามีเงินในบัญชีไม่มาก แล้ววีซ่าจะไม่ผ่านนั้น ไม่ต้องกังวล เพราะเค้าจะดูปัจจัยอื่น ๆ ด้วย
5.2 Statement ย้อนหลัง 6 เดือน อันนี้ไปขอได้ที่ธนาคารที่เราเปิดบัญชีไว้ค่ะ คิดค่าธรรมเนียมแผ่นละ 10 บาท (ถ้าจำไม่ผิด) 1 แผ่น / 1 เดือน
นอกจาก 2 ข้อข้างต้นแล้ว เรายังมีหลักฐานอื่นเพื่อแสดงความมั่งคั่ง เอ๊ยย.....ความมั่นคงทางการเงินค่ะ ว่าเรายังมีเงินฝากที่อื่นอีก แสดงให้เค้าเห็นว่าเราไปเนี่ยยังไงก็ต้องกลับ เพราะงกเงินที่เก็บไว้
5.3 ใบรับรองสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) และ
5.4 หนังสือรับรองจากสหกรณ์ออมทรัพย์ว่าเรามีเงินฝากเป็นหุ้น (monthly share) อยู่ที่นี่ด้วย
5.5 แล้วเราก้อเตรียม “สลิปเงินเดือน” 3 เดือนย้อนหลัง ติดไปด้วย

แต่คุณเจ้าหน้าที่เอาไปแค่รายการที่ 1 , 3 , 4 และ 5 ค่ะ ส่วน statement เค้าส่งคืน

6. หนังสือยืนยันการสำรองตั๋ว รายละเอียดใน step 1 ค่ะ

7. หนังสือยืนยันการจองโรงแรม เราพักบ้านคุณแฟน เพราะฉะนั้นไม่ต้องใช้ค่ะ แต่จะมีระบุใน invitation letter ว่าเราจะไปพักที่ไหน

8. หนังสือเดินทาง (passport) ใช้ตัวจริงนะคะ และต้องมีอายุมากกว่า 6 เดือน หรือมีอายุอย่างน้อย 3 เดือนนับจากวันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย

9. ค่าธรรมเนียมการยื่นคำร้องฯ วันที่เรายื่น 1,660 บาท เท่าที่ทราบปัจจุบันได้ปรับเพิ่มแล้ว ให้สอบถามจากเจ้าหน้าที่ตอนที่เราโทรไปนัดวันยื่นคำร้องฯ ที่สำคัญ... เตรียมเงินให้พอดีกับที่เค้ากำหนดไว้เลยนะคะ มี 10 บาท ก้อให้ใส่ไป 10 บาท อย่าไปเผื่อว่าให้ 20 บาทแล้วกัน เดี๋ยวเค้าคงจะทอนให้ ทอนค่ะ..แต่อาจแถมค้อนให้วงใหญ่ ของเรานี่..ใส่ซองเตรียมไว้ให้เลยค่ะ ไม่ต้องไปควักกระเป๋าตังค์แถวนั้น

ทีนี้มาดู เอกสารของคุณแฟน กันบ้างนะคะ

1. สำเนาหนังสือเดินทาง คุณแฟนส่งมาให้ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย หน้าเปล่า ๆ ก็ส่งมาด้วย เผื่อเค้าใช้ค่ะ แต่สถานทูตพิจารณาแค่หน้าที่มีรูปถ่ายและหน้าที่มีแสตมป์วีซ่าว่าเคยมาเมืองไทย มากี่ครั้ง กี่หน้า ก้อสำเนามาให้หมดนะคะ เพราะสถานทูตเค้าจะดูด้วยว่าเราสองคนเคยพบตัวจริง (meet in person) กันมาก่อนหรือเปล่า
เพื่อความชัวร์ คุณแฟนยังส่งสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาใบขับขี่มาด้วยค่ะ ..แต่ไม่ได้ใช้หรอก

2. หลักฐานรายได้ คุณแฟนเราทำงานบริษัท เลยใช้สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน

3. หนังสือค้ำประกัน คุณแฟนไปติดต่อขอที่ที่ว่าการอำเภอที่คุณแฟนอยู่ในเนเธอร์แลนด์ค่ะ ค่าธรรมเนียมประมาณ 10.40 ยูโร โดยในหนังสือนี้จะระบุว่าคุณแฟนจะเป็นคนรับรองเรา (ระบุชื่อเราและวันเดือนปีเกิดของเรา) ในเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดระหว่างการเดินทาง ที่พัก และรับรองว่าเราจะเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อครบกำหนด

4. จดหมายเชิญ (Invitation Letter) เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคุณแฟน จดหมายเชิญตัวนี้แหละค่ะที่สำคัญ เราสามารถเขียนอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างกระจ่างชัด เพราะเราจะตื่นเต้นจนตอบได้ไม่ละเอียด เวลาโดนเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ แหม...บางครั้งเนี่ยเหมือนโดนเข้าเครื่องจับเท็จเลย เพราะเค้าจะซักจริง ๆ ค่ะ ซักซะจนไม่ต้องใช้ไฮเตอร์เพื่อเพิ่มความขาวเลย

ในจดหมายให้เราพรรณนาไปเลยค่ะว่าคุณแฟนเป็นใคร เราเป็นใคร ชื่อ-นามสกุล , วันเดือนปีเกิด , ที่อยู่ , การทำงาน , รู้จักกันได้อย่างไร เรากับแฟนรู้จักกันทางอินเตอร์เน็ต ก็บอกไปเลย อย่าไปโกหกเลยค่ะ เพราะเวลาโดนเค้าซักหนัก ๆ เข้า เราจะหลุดเอง, เรากับแฟนเคยเจอกันมากี่ครั้ง เมื่อไหร่ , มีการติดต่อกันอย่างไร เราบอกไปเลยว่าทั้งโทรศัพท์บ้าน มือถือ อินเตอร์เน็ต จดหมาย เตรียมเอกสารประกอบไปด้วยค่ะ พวกบิลค่าโทรศัพท์บ้าน บิลค่ามือถือไม่มีเพราะใช้ระบบ prepaid จดหมายและการ์ดที่เค้าส่งมา รูปถ่ายที่ถ่ายคู่กัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่เอาค่ะ....ส่งคืน

ให้ระบุจุดประสงค์ว่าคุณแฟนต้องการเชิญเราไปเยี่ยมเค้าและครอบครัวของเค้าในเนเธอร์แลนด์ พ่อแม่พี่น้องเค้าก็ต้องการพบเรา โดยคุณแฟนจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด รวมถึงค่าใช้จ่ายระหว่างที่เราพำนักอยู่ที่นั่นด้วย และ guarantee ว่าเราจะเดินทางกลับเมืองไทยตามเวลาที่กำหนด ให้คุณแฟนใส่เบอร์โทรศัพท์ติดต่อได้ทั้งเบอร์บ้าน มือถือ รวมทั้ง email address ด้วยนะคะ

เขียนมาถึงตรงนี้แล้วนึกขึ้นได้ ขอนินทาคุณแฟนสักนิดเถอะค่ะ ให้เค้าเขียน invitation letter พ่อเจ้าประคุณ คุณแฟนแสนรักเขียนมากระจึ๋งเดียว 4 บรรทัดจบ ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเค้าเลยที่จะทำให้เค้าเชื่อว่าเราเป็นแฟนกัน แล้วยังมาเถียงเราอีกนะว่า แค่เนี้ยแหละ..ใช้ได้ เราเลยวีนซะ...ถ้าเขียนแค่นี้นะ ไม่ต้องไปถึงสถานทูตให้เสียเวลาหรอก ชั้นบอกผลให้เลยก็ได้ว่า..ไม่ผ่านแน่นอน เดือดร้อน อิชั้นต้องมานั่งเขียนให้เองอีก แล้วภาษาก้อเก่งเหลือประมาณ gammong gamma ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเล้ยยย ใช้เวลาเขียนตั้งแต่ย่ำค่ำ จนเกือบย่ำรุ่ง หลังจากนั้น..อยากจะไปย่ำคนต่อ

เมื่อเตรียมเอกสารทั้งของตัวเราและของคุณแฟนเรียบร้อยแล้ว ให้ทำสำเนาไว้อีก 1 ชุดค่ะ เผื่อสถานทูตขอสำเนาเพิ่ม (ถ้าไม่ขอ ก้อไม่เป็นไร เราจะได้เก็บเอาไว้เอง) แล้วนำมาจัดเรียงลำดับให้ดีนะคะ แยกเป็นของเรา และของคุณแฟน เวลาเจ้าหน้าที่ตรวจจะได้สะดวกค่ะ แล้วก็ไม่ต้องเย็บกระดาษไปนะคะ เช่น statement มี 6 แผ่น ก็ไม่ต้องเย็บรวมเป็นชุด เพราะเจ้าหน้าที่เค้าต้องแกะแม๊กซ์ออก จะได้ไม่เสียเวลาทั้งเราและเค้าค่ะ

0 Comments:

Post a Comment

<< Home