Tuesday, September 05, 2006

Step 5 ... ไปสถานทูตกันเถอะค่ะ

โทรนัดแล้ว ....เอกสารก้อพร้อมแล้ว ... ตัวเรายิ่งกว่าพร้อมอีก งั้น....รออะไรอยู่ล่ะคะ ไปสถานทูตกันเลยค่ะ Let Go…!!!!

แนะนำเรื่องการเดินทางนิดนึงค่ะ นั่งรถแท๊กซี่ถึงสถานทูตเลย หรือรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีชิดลม แล้วต่อมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอยต้นสน เข้าไปยังสถานทูต ราคา (วันนั้น) 7 บาทค่ะ ... จะสะดวกที่สุด เพราะสถานทูตไม่มีที่จอดรถให้ หรือจะเอาไปจอดที่เซ็นทรัลชิดลม แล้วนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าไปก็ได้ค่ะ
พอไปถึง...เจ้าหน้าที่หรือ รปภ.ที่อยู่หน้าประตูจะถามว่าเรามาทำอะไร ถ้ายื่นคำร้องฯ ได้นัดไว้หรือยัง ให้ตอบไปเลยค่ะว่า “นัดไว้แล้ว” เค้าจะขอตรวจกระเป๋าถือของเรา ซึ่งเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยของเค้านะคะ ให้เค้าดูไปเถอะค่ะ...เพราะเราไม่มีของผิดกฎหมายอะไร เสร็จแล้วเดินเข้าไปด้านใน จะเห็นตัวอาคาร ให้ติดต่อที่เคาน์เตอร์กระจกที่มีเจ้าหน้าที่น่ารัก ๆ นั่งอยู่ก่อนเป็นอันดับแรก

ขอบอกว่าน้องคนนี้น่ารักจริง ๆ ค่ะ หน้าไม่ยิ้ม...แต่ไม่ดุ และมีความอดทนสูงมากทีเดียว เราไปมา 3 ครั้ง ไม่เคยเห็นเค้าโมโหใส่ใครเลย การทำงานตรงนี้ต้องเจอกับผู้คนมากมายหลายประเภท (ร้อยพ่อพันแม่.....ว่างั้นเถอะ) บางคนเตรียมตัวมาดี...ก็ดีไป บางคนสิคะ ไม่ได้นัดล่วงหน้า เอกสารไม่พร้อม แต่ก็ยังดันทุรังจะเข้าไปยื่นให้ได้ น้องเค้าก็พยายามอธิบายให้เข้าใจ

วกกลับมาต่อนะคะ... ให้แจ้งเค้าไปว่ามายื่นคำร้องขอวีซ่า นัดไว้แล้ว น้องเค้าจะขอ passport เราก็ส่งให้พร้อมเอกสารที่เตรียมมาให้เค้าค่ะ เค้าจะเอาไปตรวจสอบว่าเรานัดไว้จริงหรือเปล่า และจะตรวจความเรียบร้อยของเอกสารเรา ถ้าไม่เรียบร้อย...เค้าจะให้เราไปจัดการมาใหม่ ถ้าสามารถทำได้เลย เช่น รูปถ่าย เค้าก็จะให้เราไปถ่ายใหม่ มีร้านใกล้ ๆ สถานทูตค่ะ ราคาไม่ทราบ แล้วกลับมายื่นใหม่ได้เลย ตรวจเอกสารเรียบร้อยแล้ว เค้าจะให้บัตรคิวเรามาค่ะ
ให้เดินเข้าไปนั่งรอข้างใน...รอชั้นแรกก่อนนะคะ แล้วคุณ รปภ. จะบอกให้ว่าคิวไหนจะได้เข้าไปนั่งรอชั้นใน เข้าไปแล้วจะมีโต๊ะสูง ๆ ไว้กรอกเอกสาร ให้เราติดรูปถ่ายที่มุมบนซ้าย-ขวาของคำร้องฯ ค่ะ เค้าจะมีกาวเอาไว้ให้ เสร็จแล้วหาที่นั่งรอค่ะ ถ้าข้างในเต็ม....มานั่งรอที่เก้าอี้หินยาว ๆ ด้านนอกก่อนก็ได้ค่ะ หลังจากนั้น...ก็ถึงเวลาแห่งการรอค่ะ แนะนำให้เอาหนังสือไปอ่านระหว่างรอนะคะ จะได้ไม่เบื่อ หรือไม่ก็ไปนั่งฟังคนอื่นเค้าคุยกัน หรือจะไปนั่งคุยกับคนอื่นก็ได้ค่ะ ... ถ้าเค้าอยากคุยด้วยอ่ะนะ

คิวไม่เยอะค่ะ... แต่รอนาน วันนั้นเราได้คิวที่ 12 ตอนนั้นเค้าเรียกคิวที่ 6 ยื่นเอกสารอยู่ รออยู่ประมาณชั่วโมงกว่าๆ โดนเรียกเข้าไปตอน 11 โมงกว่า หลังจากรอด่านแรกแล้ว คิวเราจะยังไม่เรียกตรงบอร์ดนะคะ แต่พอใกล้ถึงคิว รปภ. จะเรียกให้ไปรอด้านในอีกครั้งค่ะ หลังจากนั้นให้ดูว่าหมายเลขเราเรียกให้ไปช่องไหนก็ไปช่องนั้นค่ะ
ระหว่างรอก้อสังเกต (แอบสอดรู้สอดเห็น) เรื่องของชาวบ้านไปด้วย ว่าใครเค้าทำอะไรกันบ้าง จะได้เตรียมตัวตอบคำถามถูก
คนก่อนหน้าเรา... เจ้าหน้าที่ “ไปหาใคร” หญิงสาว “ไปหาเพื่อนค่ะ”
เจ้าหน้าที่ “เพื่อนหญิงหรือชาย” หญิงสาว “เพื่อนชายค่ะ”
เจ้าหน้าที่ “เพื่อนชายของคุณมีความหมายแค่ไหน” หญิงสาว...อึ้งนิดนึง..แล้วตอบว่า ”สนิทเป็นพิเศษค่ะ”

แหม... เจ้าหน้าที่ที่รับคำร้องฯ เนี่ย หน้าตาดุ๊..ดุนะคะ แล้วคำพูดคำจาก็เชือดเฉือนเหลือเกิน แต่ก้อเข้าใจนะคะว่าเค้าต้องเจอคนหลากหลายประเภท บางคนก็ไปแบบมีเจตนาไม่ดี ทำให้คนที่ตั้งใจไปด้วยเจตนาดี... โดนร่างแหไปด้วย เค้าเลยต้องเข้มงวดไว้ก่อน วันที่เราไป..ก็เจอคนที่ตั้งใจไปด้วยเจตนาไม่ดีเหมือนกันค่ะ แต่ธุระ..ไม่ใช่ เราเลยไม่สนใจ (นิสัยแย่นะคะแบบเนี้ย..)

พอถึงคิว....เราก้อยื่นเอกสารทั้งหมดที่เตรียมไป (รายละเอียดใน Step 3) เจ้าหน้าที่เค้าก็ตรวจ แล้วก้อถามไปด้วย
เจ้าหน้าที่ “ไปหาใคร” เรา “ไปเยี่ยมแฟนค่ะ” เจ้าหน้าที่ชะงักเล็กน้อย
เจ้าหน้าที่ “รู้จักกันได้อย่างไร” เรา “ทางอินเตอร์เน็ตค่ะ”
เจ้าหน้าที่พยักหน้า... คงเจอเคสแบบนี้เยอะ
เราก็เลยบอกเค้าว่าเราบอกรายละเอียดไว้ใน Invitation Letter แล้ว ..
เจ้าหน้าที่ “เคยเจอกันหรือเปล่า” เรา “เคยค่ะ” (ซึ่งเค้าสามารถเช็คได้จาก passport ของผู้ชายค่ะ)
เจ้าหน้าที่ “คุณทำงานที่ไหน” เรา “(บอกชื่อบริษัท-สถานที่)”
อ้อ.....พอดีใน passport เรามีวีซ่าที่เคยไปเยอรมัน เชค และออสเตรีย เค้าก้อถามว่าเรา “ไปเยอรมันทำไม” เราก้อตอบไปว่า ไปดูงานตอนที่เรียนปริญญาโท หลังจากนั้น...เค้าก็ตรวจเอกสารว่าครบถ้วนและถูกต้องตามที่เค้าต้องการหรือไม่ แล้วเค้าก้อคืนเอกสารบางอย่างมาให้ แหะ..แหะ เตรียมไปเกินค่ะ ก้อกลัวเค้าจะขอเพิ่มนี่นา ….กลายเป็นว่าของคนอื่นเค้าขอเพิ่ม แต่ของเรา..เค้าส่งคืน
บางคน...เจ้าหน้าที่เค้าอาจจะขอเอกสารเพิ่มนะคะ สามารถส่ง Fax มาได้ หรืออาจให้มายื่นวันรับวีซ่า (ถ้าอนุมัติ)

เพิ่มเติมอีกนิดค่ะ...ว่า เวลาคุยกับเจ้าหน้าที่ ไม่ต้องกลัวค่ะ เค้าอาจจะดูดุจริง แต่เพื่อเช็คว่าเราบริสุทธิ์ใจในการเดินทางแค่ไหน เพราะเค้าคงเจอเหตุการณ์ไม่ดีมาหลายเคส แต่ไม่อยากให้..กร่าง..ค่ะ ควรจะเคารพเค้าในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้วย เห็นบางคนที่ไปยื่น รู้ทั้งรู้ว่าเอกสารตัวเองไม่พร้อม ก้อยังจะดันทุรังไป แล้วเถียงเค้าอีกว่า.. ก้อรู้ว่ายื่นแล้วไม่ผ่าน แต่อยากจะยื่น เออ..เนอะ คนเรา เสียเงินเล่นซะงั้น

เสร็จแล้วเค้าก้อจะให้ “ใบรับวีซ่า” โดยในเอกสารจะระบุว่า หากท่านได้รับอนุมัติวีซ่า เอกสารที่ต้องนำมาเพื่อรับวีซ่าคือ
1. ใบรับระบุหมายเลขคำร้อง (ตัวจริง)
2. ตั๋วเครื่องบินระบุวันที่เดินทางไป/กลับ (ตัวจริง + สำเนา)
3. กรมธรรม์ประกันการเดินทาง (ตัวจริง + สำเนา) การซื้อกรมธรรม์ ให้ดูรายละเอียดจากใบแนบนะคะว่ามีบริษัทใดบ้างที่สถานทูตยอมรับ

ที่สำคัญ .... อย่าเพิ่งซื้อตั๋วเครื่องบิน ก่อนโทรสอบถามผลการขอวีซ่านะคะ เค้าให้เราโทรถามได้ตั้งแต่วันศุกร์เป็นต้นไปค่ะ
สอบถามผลวีซ่าที่ 0-2309-5240 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00 – 16.00 น.

0 Comments:

Post a Comment

<< Home